พระตำหนักงามสง่า  ลือนามสวนสมเด็จ  เกาะเกร็ดแหล่งดินเผา  วัดเก่านามระบือ  เลื่องลือทุเรียนนนท์  งามน่ายลศูนย์ราชการ
 
                               พระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน  พ.ศ. 2548  ประกอบด้วย  4  หมวด 34  มาตรา    

          หมวด  1  วิสาหกิจชุมชน

          สาระสำคัญ   :
                 วิสาหกิจชุมชนที่จะขอรับการส่งเสริมตามพระราชบัญญัติ  ต้องยื่นขอจดทะเบียนต่อกรมส่งเสริมการเกษตรตามระเบียบที่คณะกรรมการกำหนด
                 ภายใน  30  วันหลังสิ้นปีปฏิทิน  ให้วิสาหกิจชุมชนที่ประสงค์จะดำเนินการต่อ  แจ้งให้กรมส่งเสริมการเกษตรทราบ
                วิสาหกิจชุมชนที่ประสงค์จะเลิกกิจการ  ให้แจ้งกรมส่งเสริมการเกษตรภายใน  30  วันนับแต่วันที่เลิกกิจการ

          หมวด  2  เครือข่ายวิสาหกิจชุมชน
          สาระสำคัญ  :
                เครือข่ายวิสาหิจชุมชน  ที่จดทะเบียนต่อกรมส่งเสริมการเกษตร  มีสิทธิขอรับการส่งเสริมตามพระราชบัญญัตินี้
                การบริหารจัดการเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนให้เป็นไปตามข้อบังคับของเครือข่ายนั้น  และให้มีการกำหนดให้การดำเนินการของเครือข่ายเป็นไปตามความสมัครใจ  โดยจะเป็นนิติบุคคล
หรือไม่เป็นนิติบุคคลก็ได้
                เครือข่ายวิสาหกิจชุมชนอาจดำเนินการแนะนำช่วยเหลือกิจการภายในของวิสาหกิจชุมชนในเครือข่าย  เรื่อง  การศึกษาวิจัย  การให้ความรู้และคำแนะนำ  เพื่อประโยชน์ต่อการดำเนินงาน
ของวิสาหกิจชุมชนในเครือข่าย
                เครือข่ายวิสาหกิจชุมชนอาจดำเนินการแนะนำช่วยเหลือกิจการภายนอกของวิสาหกิจชุมชนในเครือข่าย  เรื่องการติดต่อหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน  การประสานงานกับเครือข่าย
วิสาหกิจชุมชนอื่น  เป็นศูนย์กลางสร้างความสามัคคี ช่วยเหลือและร่วมมือกัน  เพื่อความเข้มแข็งของวิสาหกิจชุมชน  ตลอดจนเสนอความคิดเห็นต่อคณะกรรมการเกี่ยวกับนโยบายหรือมาตรการ
เกี่ยวกับนโยบายหรือมาตรการในการส่งเสริมของหน่วยงานหรือองค์กรต่าง ๆ

          หมวด  3  คณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน
          สาระสำคัญ  :
                คณะกรรมการวิสาหกิจชุมชน  จำนวน  28  คน  มีนายกรัฐมนตรีหรือรองนายกรัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมายเป็นประธาน  และอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตรเป็นกรรมการและเลขานุการ
โดยมีอำนาจหน้าที่เสนอความเห็นต่อคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับนโยบาย  มาตรการและแผนการพัฒนาและส่งเสริมกิจการวิสาหกิจชุมชน  ประสานงานกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน  และให้ความ
ช่วยเหลือสนับสนุนให้คำแนะนำแก่วิสาหกิจชุมชนในการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพ  ตลอดจนส่งเสริมช่วยเหลือการขอจดทะเบียนสิทธิบัตร  เครื่องหมายการค้า  หรือทรัพย์สินทางปัญญา  และ
การศึกษาวิจัย
                คณะกรรมการวิสาหิจกชุมชนจังหวัด   จำนวน   20  คน มีผู้ว่าราชการจังหวัดหรือรองผู้ว่าราชการจังหวัดที่ได้รับมอบหมายเป็นประธาน  และเกษตรจังหวัดเป็นกรรมการและเลขานุการ
โดยมีอำนาจหน้าที่เสนอความเห็นต่อคณะกรรมการกิจการวิสาหกิจชุมชน  ประสานงานกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน  และให้การส่งเสริมช่วยเหลือการขอจดทะเบียนสิทธิบัตร  เครื่องหมายการ
ค้า  หรือทรัพย์สินทางปัญญา  ตลอดจนพิจารณาหรือเสนอแนะต่อคณะกรรมการเกี่ยวกับการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนในจังหวัด
               กรมส่งเสริมการเกษตรทำหน้าที่เป็นสำนักงานเลขานุการคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน และสำนักงานเกษตรจังหวัดเป็นสำนักงานเลขานุการคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน

          หมวด  4  การส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน
          สาระสำคัญ  :
                วิสาหกิจชุมชนหรือเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนที่จดทะเบียนแล้ว สามารถขอรับการส่งเสริมหรือสนับสนุนได้ตามวิธีการที่คณะกรรมการกำหนด
                ให้คณะกรรมการจัดให้มีมาตรการในการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนากิจการวิสาหกิจชุมชนระดับปฐมภูมิอย่างครบวงจร  เพื่อให้กิจการมีความเข้มแข็งและพึ่งพาตนเองได้
                ให้คณะกรรมการจัดให้มีมาตรการในการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนากิจการวิสาหกิจชุมชนที่เข้มแข็งและพึ่งพาตนเองได้แล้วอย่างต่อเนื่อง  เพื่อสร้างความพร้อมให้แก่กิจการใน
ระดับที่สูงขึ้น
                ให้คณะกรรมการจัดให้มีมาตรการในการส่งเสริมและสนับสนุนการจัดตั้งการประกอบการ  การตลาด  และส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือกันระหว่างเครือข่ายวิสาหกิจชุมชน
หรือภาคธุรกิจหรืออุตสาหกรรมอื่น   เพื่อขยายและสร้างความมั่นคงให้แก่กิจการวิสาหกิจชุมชน
                ให้มีคณะกรรมการประสานนโยบายกองทุนเพื่อพัฒนากิจการวิสาหกิจชุมชนเพื่อประสานการดำเนินงานกองทุนต่าง ๆ

          
พระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน พ.ศ. 2548   :  มีผลบังคับใช้  19   มกราคม  2548